
สงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II ค.ศ. 1939-1945)
เป็นความขัดแย้งของประชาชาติที่เกิดขึ้นในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1939 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945 รวมเป็นเวลา 6 ปี สงครามครั้งนี้สร้างความเสียหายมากกว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 หลายเท่า
1.2.1 สาเหตุของสงคราม
1) ลัทธิจักรวรรดินิยม มหาอำนาจต่างแสวงหาอาณานิคม ขยายดินแดนรุกราน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอักษะ
2) ลัทธิชาตินิยม ความไม่ยุติธรรมของสนธิสัญญาแวร์ซาย ทำให้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนีหันไปใช้ลัทธินาซีเพื่อสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังเกิดทฤษฎีความเหนือกว่าด้านเผ่าพันธุ์ทำให้ฮิตเลอร์กวาดล้างชาวยิว
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนี
3) ลัทธินิยมทางทหาร ได้แข่งกันสะสมกำลังและอาวุธเพื่อสร้างแสนยานุภาพทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ทำให้ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน
4) มหาอำนาจแบ้งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายอักษะ ประกอบด้วยเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งดำเนินนโยบายต่างประเทศไปในทำนองเดียวกัน คือรุกรานขยายอำนาจกับฝ่ายพันธมิตร ซึ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตยตะวันตก ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินนโยบายต่างประเทศแตกต่างกัน โดยเฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศษใช้นโยบายเอาใจอักษะประเทศ แต่นโยบายดังกล่าวทำให้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ได้โอกาสส่งกองทัพเข้ายึดครองเชโกสโลวาเกียในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1939 ทำให้อังกฤษและฝรั่งเศษต้องยกเลิกนโยบายผ่อนปรนและหันมาดำเนินนโยบายประกันเอกราชให้แก่โปแลนด์เพื่อต่อต้านฮิตเลอร์ จนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
ฝ่ายอักษะ ประกอบด้วยเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น
ฝ่ายพันธมิตร ซึ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตยตะวันตก ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา
5) ความอ่อนแอขององค์การสันนิบาตชาติ องค์การสันนิบาตชาติไม่สามารถหยุดยั้งการรุกรานของมหาอำนาจบางประเทศได้
1.2.2 สถานการณ์ของสงคราม
1) วิกฤตการณ์ก่อนเกิดสงครามโลก อังกฤษและฝรั่งเศสตระหนักว่าเยอรมันีและอิตาลีต้องการทำสงครามแน่วแน่แล้วจึงเรียกระดมพล
เบเนดิกซ์ มุสโสลินี ผู้นำประเทศอิตาลี
2) กองทัพเยอรมันบุกโปแลนด์ทำให้เกิดสงครามโลก อังกฤษเรียกร้องให้เยอรมนีถอนทหาร แต่เยอรมนีไม่ยอม อังกฤษกับฝรั่งเศษจึงประกาศสงครามกับเยอรมนี สงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเกิดขึ้น
3) สงครามในทวีปยุโรป อิตาลีได้ส่งกองทัพโจมตีฝรั่งเศสทางด้านเทือกเขาแอลป์ หลังจากนั้นได้เซ็นสัญญาสงบศึกระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนี และอิตาลีตามลำดับ โดยดินแดนภาคเหนือและภาคตะวันตกของฝรั่งเศสอยู่ภายใต้การยึดครองของเยอรมนี
สัญลักษณ์ นาร์ซี
4) สงครามระหว่างเยอรมนีกับอังกฤษ กองทัพเยอรมันยังไม่ทันบุกเกาะอังกฤษไก้ก็เปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีสหภาพโซเวียต
5) สงครามในคาบสมุทรบอลข่าน เยอรมนีต้องการจะตัดเส้นทางของอังกฤษด้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจึงบุกลงมาในคาบสมุทรบอลข่าน
6) สงครามระหว่างเยอรมนีกับสหภาพโซเวียต เมื่อเกิดสงครามแล้วสหภาพโซเวียตได้ส่งกองทัพเข้าไปในประเทศโปแลนด์ ยึดครองดินแดนและตั้งฐานทัแถบทะเลบอลติก กองทหารเยอรมันเลยเข้ารุกรานสหภาพโซเวียต และยึดโปแลนด์ไว้ได้ และยังตียูเครนรุกไปถึงรัสเซียภาคใต้ แต่กองทัพโซเวียตต้านไว้ไม่ให้ถึงเมืองเลนิน
7) สงครามในแอฟริกา เมื่ออิตาลีแพ้ เยอรมนีจึงส่งทหารมาช่วย กองทัพพันธมิตรประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษได้โจมตีจนเยอรมันต้องยอมแพ้ที่ตูนิเซีย
8) พันธมิตรยกพลขึ้นบกที่อิตาลี เมื่อชนะที่ตูนิเซียแล้ว กองทัพพันธมิตรก็ยกพลขึ้นบกที่อิตาลียึดได้เกาะซิซิลี มุโสลินีได้ถูกชาวอิตาลีจับประหารชีวิต กองทัพทหารฝ่ายพันธมิตรเข้าทำการยึดครองเมือง สงครามจึงสิ้นสุด
9) กองทัพพันธมิตรบุกยุโรปตะวันตก กองทัพของสหภาพโซเวียตได้บุกผ่านโปแลนด์มาบรรจบกับฝ่ายพันธมิตรในดินแดนเยอรมันพร้อมกัน เยอรมนีจึงยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข
10) สงครามด้านเอเซีย-แปซิฟิก เมื่อสงครามทางด้านยุโรปเกิดขึ้น ญี่ปุ่นก็เตรียมการจำทำสงครามในเอเชีย เพื่อกำจัดอำนาจของชาติมหาอำนาจตะวันตก
1.2.3 ผลของสงคราม
1) ด้านสังคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 68 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีผู้ประสบเคราะห์กรรมจากภัยสังคมเป็นจำนวนมาก
2) ด้านการเมือง ประเทศผู้แพ้สงครามต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม เสียดินแดนและอาณานิคม ต้องยินยอมปฏิบัติตามสนธิสัญญาที่ฝ่ายชนะสงครามวางเงื่อนไขให้ดังนี้
อิตาลี - เสียอาณานิคมและยกดินแดนบางส่วนให้ยูโกสลาเวีย ค่าปฏิกรรมสงคราม 360 ล้าน
ฟินแลนด์ - เสียดินแดนบางส่วนให้สหภาพโซเวียต ค่าปฏิกรรมสงคราม 300 ล้าน
ฮังการี - เสียดินแดนบางส่วนให้เชโกสโลวะเกีย โรมาเนีย บัลแกเรีย และสหภาพโซเวียต กองกำลังทหารให้อยู่ในความดูแลของสหภาพโซเวียต
บัลแกเรีย - จ่ายค่าปฏิกรรมสงครามให้ ฟินแลนด์ ฮังการี โรมาเนีย ประเทศละ 70 ล้าน
โรมาเนีย - เสียดินแดนบางส่วนให้สหภาพโซเวียตและบัลแกเรีย เสียค่าปฏิกรรมสงคราม 300 ล้าน
ออสเตรีย - ถูกแบ่งเป็น 4 ส่วนเหมือนเยอรมนี
ญี่ปุ่น - ซึ่งเป็นผู้ก่อสงครามในเอเชีย สหรัฐอเมริกาได้ยึดครองญี่ปุ่นและให้ญี่ปุ่นปฏิบัติตามสนธิสัญญาอย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามมีกำลังทหาร
สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ส่งผลกระทบให้ชาติมหาอำนาจดั้งเดิม ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศษได้อ่อนแอลง ชาติอาณานิคมพากันเรียกร้องสันติภาพ จึงปล่อยให้ประเทศเหล่านี้ได้รับเอกราช
3) ด้านเศรษฐกิจ ผู้ริเริ่มสงครามและประเทศมหาอำนาจได้เสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากอีกครั้ง ค่าใช้จ่ายรวมกันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ






