- ค.ศ. 1952  ชอง มอนเน ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจของฝรั่งเศส เสนอให้มีการร่วมมือระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนีเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของยุโรปหลังสงคราม จึงจัดตั้งประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้าแห่งยุโรป (European Coal and Steel Community – ECSC) มีสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และ ลักเซมเบิร์ก
          - 25 มี.ค. ค.ศ. 1957 กลุ่มประเทศทั้ง 6 ได้ลงนามสนธิสัญญากรุงโรม (Treaties of Rome) ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของของการก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจยุโรป และได้พัฒนามาเป็นสหภาพยุโรปในปัจจุบัน
          - ค.ศ. 1958 : จัดตั้งประชาคมพลังงานปรมาณู (European Atomic Energy Community – EURATOM) และประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Community – EEC)
         - ค.ศ. 1967 : ทั้งสามองค์กรได้รวมตัวกันภายใต้กรอบ EEC
         - ค.ศ. 1968 : EEC ได้พัฒนาเป็นสหภาพศุลกากร (Custom Union) และก้าวสู่การเป็นตลาดร่วม (Common Market)
         - ค.ศ. 1968 : EEC ได้พัฒนาเป็นสหภาพศุลกากร (Custom Union) และก้าวสู่การเป็นตลาดร่วม (Common Market)
         - ค.ศ. 1973 : สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก และไอร์แลนด์เข้าเป็นสมาชิก
         - ค.ศ. 1981 : กรีซเข้าเป็นสมาชิก
         - ค.ศ. 1986 : สเปนและโปรตุเกสเข้าเป็นสมาชิก
         - ค.ศ. 1987 : ออก Single European Act เพื่อพัฒนา EEC
ให้เป็นตลาดร่วมหรือตลาดเดียว ในวันที่ 1 มกราคม 1993 และเรียกชื่อใหม่ว่า ประชาคมยุโรป (European Community – E)
องค์กรหลักที่เกิดจากการรวมตัวกันของประเทศในยุโรป
1.สถาบันการเงินแห่งยุโรป
2.คณะมนตรีสหภาพยุโรป
3.ธนาคารกลางยุโรป
การขยายจำนวนสมาชิกครั้งสำคัญ
ครั้งที่1 ค.ศ. 2004 รับออสเตรีย ฟินแลนด์และสวีเดน
ครั้งที่2 ค.ศ. 2004 เปิดรับกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกเข้าเป็นสมาชิก
 ครั้งที่3 ค.ศ. 2007 รับประเทศโรมาเนียและบัลแกเรียเป็นสมาชิก
ปัจจุบัน มี27 ประเทศที่เป็นสมาชิก  มีพื้นที่รวม 3,976,372 ตร.กม. มีประชากรประมาณ 456.9 ล้านคน

สัญลักษณ์ที่แสดงความเป็นเอกภาพของรัฐชาติยุโรป คือ
        วันชาติ วันที่ 9 พฤษภาคม เป็นวันที่โรแบร์ ชูมอง ประกาศแผนการเริ่มก่อตั้งองค์การสหภาพยุโรป เพลงชาติ และธงชาติรูปดาวทองสิบสองดวงบนพื้นสีน้ำเงิน