เกิดจากความขัดแย้งของประเทศในทวีปยุโรป และลุกลามไปยังประเทศต่างทั่วโลกมากกว่า 30 ประเทศ จึงมีผู้คนเรียกว่า มหาสงคราม เริ่มขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 และสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918
1.1.1 สาเหตุของสงคราม
1) ลัทธิชาตินิยม - เกิดลัทธิชาตินิยมทั้งในหมู่ยาวฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และคาบสมุทรบอลข่าน แต่ละประเทศต้องการที่จะสร้างแสนยานุภาพให้แก่ประเทศของตน เพื่อให้ชาติของตนยิ่งใหญ่
2) การแข่งขันกันแสวงหาอาณานิคม - การปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปทำให้หลายประเทศต้องออกแสวงหาอาณานิคมเพื่อเป็นวัตถุดิบในการอุสาหกรรม มีการแข่งขันแบบการค้าเสรี แต่เมื่อมีการแข่งขันสูงขึ้นจึงเริ่มใช้กำลังทหารเข้ายึดครองดินแดนที่มีทรัพยากรที่ตนต้องการ และตั้งกำแพงภาษีให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าประเทศคู่แข่งมาตีตลาดได้
3) มหาอำนาจแตกออกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อชาติมหาอำนาจมีความขัดแย้งกัน ต่างฝ่ายต้องมีการหาพันธมิตรมาเป็นพวก มหาอำนาจทั้ง 2 กลุ่มคือ กลุ่มประเทศสนธิสัญญาพันธไมตรีไตรภาคี และกลุ่มประเทศความตกลงไตรภาคีต่างไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ประกอบกับไม่มีองค์กรแก้ไขข้อพิพาทการขัดแย้งระหว่างประเทศ เมื่อเกิดข้อโต้แย้งรุนแรงจึงหาทางออกด้วยสงคราม
กลุ่มประเทศสนธิสัญญาพันธไมตรีไตรภาคี
4) ความไม่มั่นคงทางการเมืองในคาบสมุทรบอลข่าน – ดินแดนติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนปละทะเลดำ ประกอบด้วยกลุ่มคนที่แตกต่างกันทางภาษาและวัฒนธรรม ที่สำคัญคือ ประเทศใหญ่ๆ ที่มีพรมแดนใกล้คิดกับคาบสมุทรบอลข่านต่างพยายามรักษาอำนาจของตนไว้
คาบสมุทรบอลข่าน
1.1.2 สถานการณ์ของสงคราม
ในสงครามครั้งนี้ได้แบ่งเป็น ฝ่ายสัมพันธมิตร ( เซอร์เบีย รัสเซีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ) และฝ่ายมหาอำนาจกลาง ( ออสเตรีย-ฮังการี และเยอรมัน ) อิตาลีนั้นตอนแรกเป็นกลาง แต่ภายหลังเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพัธมิตร
แนวรบตะวันตก กองทัพเยอรมันได้บุกประเทศเบลเยียมอย่างรวดเร็วตามแผนชลีฟเฟินเพื่อโจมตีฝรั่งเศส โดยรุกรานได้เกือบทั้งประเทศและตอนเหนือของฝรั่งเศส แต่ได้รับการต่อต้านจากฝ่ายสัมพันธมิตรจึงไม่อาจรุกต่อไปยังปารีสได้
แนวรบตะวันออก รัสเซียได้ส่งกองทัพเข้าโจมตีเยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี ในระยะแรกกองทัพรัสเซียเป็นฝ่ายได้ชัย แต่หลังจาก ค.ศ. 1915 กองทัพรัสเซียได้เป็นฝ่ายแพ้ จนถึงค.ศ. 1916 กองทัพรัสเซียได้พยายามเข้าต่อสู้กับเยอรมันแต่ก็เป็นฝ่ายแพ้อีก
แนวรบด้านบอลข่าน กองทัพออสเตรีย-ฮังการี ไม่สามารถเอาชนะเซอร์เบียได้
แนวรบทางทะเล กองทัพเรืออังกฤษสามารถเอาชนะกองทัพเรือเยอรมัน และสามารถตัดขาดเส้นทางการคมนาคมทางทะเลทั้งในมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้สำเร็จ
การเข้าร่วมกองทัพของสหรัฐอเมริกา หลังจากประกาศสงครามกับเยอรมนีแล้วส่งทหารพร้มยุทโธปกรณ์ทางบก เรือ และอากาศเข้าร่วมรบและสามารถปราบเรือดำน้ำของเยอรมันได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้นเยอรมันได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและเริ่มล่าถอย ประเทศพันธมิตรก็เริ่มพ่ายแพ้ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 ออสเตรีย-ฮังการีได้แยกอออกเป็น 2 ประเทศและขอทำสัญญาสงบศึก ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 เยอรมนีได้ลงนามในสัญญาสงบศึก สงครามโลกครั้งที่ 1 จึงได้ยุติลง
1.1.3 ผลของสงคราม
มีการสู้รบเป็นระยะเวลา 4 ปี 3 เดือน ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่ 2 ฝ่ายกล่าวคือ
1) ทางด้านสังคม ทหารได้เสียชีวิตกว่า 8.6 ล้านคน บาดเจ็บมากกว่า 20 ล้านคนและพิการตลอดชีวิต 7 ล้านคน การรบที่สำคัญที่สุดคือ ยุทธการแวร์เดิง และยุทธการซอม สงครามครั้งนี้ทำให้เกิดปัญหาชนพลัดถิ่น โรคจิตจากกลัวภัยสงคราม
2) ด้านการเมือง ทำให้ยุโรปอ่อนแรงลง ประเทศมหาอำนาจกลางซึ่งเป็นฝ่ายแพ้สงครามต้องล่มสลายลงโดยเสียอาณานิคม ดินแดนในการครอบครอง อิทธิพลทางการค้า และถูกลดกำลังทหารและอาวุธ เป็นผลทำให้เกิดมหาอำนาจใหม่ คือ สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
3) ทางด้านเศรษฐกิจ ต่างฝ่ายต่างทุ่มทุนมหาศาลเพื่อผลิตอาวุธใหม่ อีกทั้งฝ่ายแพ้ต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามตามสนธิสัญญา ฝ่ายชนะต้องรับผิดชอบประชาชนในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลก
สงครามโลกครั้งที่ 1 (world war I ค.ศ. 1914-1918)



